วันพุธที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2553

พบสอบ O-NET เด็ก ป.6 ยังเดาพุ่ง สทศ.เล็งปรับคิดวิเคราะห์ขึ้น 50%

กวดวิชา ติวออนไลน์ ตะลุยข้อสอบ โดย เว็บการศึกษาดอทคอม kanzuksa.com

พบสอบ O-NET เด็ก ป.6 ยังเดาพุ่ง สทศ.เล็งปรับคิดวิเคราะห์ขึ้น 50%

สทศ.เตรียมปรับเข้มข้อสอบ O-NET ป.6 ปี’53 หลังครั้งล่าสุดพบช่องโหว่ทำยอดเด็กเดายังพุ่งปรี๊ด เล็งปรับใหม่ เน้นวิเคราะห์ทุกวิชา 50% เพิ่มบทความมากขึ้น หลายตัวเลือก หลายคำตอบ เหมือนของ ม.6

ศ.ดร.อุทุมพร จามรมาน ผู้อำนวยการสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) เปิดเผยว่า ตามที่ สทศ.ได้วิเคราะห์ข้อสอบแบบทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน หรือ O-NET ของนักเรียนชั้น ป.6, ม.3 และ ม.6 ประจำปีการศึกษา 2552 ผลปรากฏว่า การปรับรูปแบบข้อสอบ O-NET ในปีนี้ ส่งผลให้ค่าการเดาในทุกวิชาของนักเรียน ม.3 และม.6 ลดลง แต่ต่างกับ ป.6 ที่พบว่า ค่าการเดาในทุกวิชายังคงสูงอยู่ ดังนั้นในปีการศึกษา 2553 ทาง สทศ.จะปรับรูปแบบข้อสอบ O-NET ของ ป.6 ให้เข้มข้นขึ้นในทุกวิชา โดยจะปรับจำนวนข้อให้เด็กได้คิดวิเคราะห์มากขึ้น ประมาณ 50% ของข้อสอบ เพื่อให้ค่าการเดาลดลงเหมือนกับ ม.3 และ ม.6 เพราะในปีนี้เห็นชัดแล้วว่า การเปลี่ยนรูปแบบข้อสอบให้มีหลากหลายรูปแบบ จะช่วยให้การเดาลดลง และช่วยจำแนกเด็กเก่ง และเด็กไม่เก่งได้ดีขึ้นด้วย

“การปรับรูปแบบข้อสอบของ ป.6 ในปีนี้ เป็นการปรับที่เล็กน้อยมากเพียง 1-2% จึงทำให้ยังไม่เห็นผลที่ชัดเจน ดังนั้นในปีหน้าคงต้องปรับให้มากขึ้น โดยจะเน้นการอ่านบทความ และถามคำถามที่มีหลายคำตอบในลักษณะเดียวกันกับข้อสอบ O-NET ของ ม.6 ที่มีการปรับใหม่ อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่า การปรับข้อสอบของ ป.6 ใหม่นั้น น่าจะไม่มีเสียงโวยวายมากเท่าใดนัก ซึ่งไม่อยากให้นักเรียนต้องกังวล เพราะข้อสอบใหม่เนื้อหาจะเหมือนเดิม เพียงแต่ปรับรูปแบบเท่านั้น เช่น วิชาภาษาไทย ก็จะมีบทความสั้นๆ ให้อ่านเพิ่มขึ้น สำหรับข้อสอบของ ม.3 นั้น ในปีนี้ปรับรูปแบบไปเพียง 10-20% แต่ค่าการเดาก็ลดลงทุกวิชาแล้ว ดังนั้นในปีหน้าก็อาจจะปรับเพิ่มขึ้นอีกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น” ผอ.สทศ. กล่าว




ศ.ดร.อุทุมพร กล่าวด้วยว่า รูปแบบของข้อสอบส่วนใหญ่ในทั่วโลกจะไม่มีประเทศใดที่คิดเพียงรูปแบบเดียว ส่วนใหญ่จะมี 2-3 รูปแบบใน 1 วิชา ซึ่งในส่วนของ สทศ.นั้น ยังคงยึดหลักที่จะให้แต่ละวิชามีรูปแบบไม่เกิน 3 แบบ โดย ม.6 จะเป็น 3 รูปแบบ ม.3 และ ป.6 เป็น 2 รูปแบบ ทั้งนี้ถึงเวลาแล้วที่ สทศ.จะต้องนำสังคม ไม่ใช่ทำตามสังคม เพราะหากยังคงให้ สทศ.ออกข้อสอบตามรูปแบบเดิม มีเพียงรูปแบบเดียว ข้อสอบมี 4 ตัวเลือก เด็กก็คงไม่มีการพัฒนา ซึ่งอยากฝากไปยังผู้ปกครองทุกคน ว่า ขอให้ช่วยกันพัฒนาเด็กทั้งโรงเรียน ไม่ใช่ส่งลูกตนเองไปกวดวิชาเพียงอย่างเดียว

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 7 เมษายน 2553 06:55 น.

วันศุกร์ที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2553

ผลสอบ"โอเน็ต"เด็กตกทั้งประเทศ

กวดวิชา ติวออนไลน์ ตะลุยข้อสอบ โดย เว็บการศึกษาดอทคอม kanzuksa.com

ผลสอบ"โอเน็ต"เด็กตกทั้งประเทศ





สั่งเร่งปรับปรุง


เผยเด็กไทยสอบ “โอเน็ต” ตกทั้ง ปท. “รมช.” ถึงกับอึ้ง เผยคะแนนอังกฤษต่ำสุด ผงะ ผลสอบ ม.6 ตกทั้ง 8 กลุ่มสาระวิชา จี้ทุกภาคส่วนเร่งปรับปรุงคุณภาพการศึกษา ตั้งเป้า 5 ปี คะแนนเฉลี่ยต้องสูงขึ้น ส่วนบรรยากาศจับสลากเข้า ม.1 วันแรกคึกคัก พ่อแม่แห่ลุ้นลูก บนบานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก่อนจับสลาก ศธ.ยัน นร.ทุกคนมีที่เรียน



เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 1 เม.ย. ที่สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รมช.ศึกษา ธิการ พร้อมด้วย ศ.ดร.อุทุมพร จามรมาน ผอ.สทศ. แถลงข่าวเกี่ยวกับ “ผลวิเคราะห์ค่าสถิติคะแนนแบบทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐานหรือ โอเน็ต ปีการศึกษา 2552 และค่าสถิติคะแนนผลการทดสอบความถนัดทั่วไป และความถนัดทางวิชาชีพ/ วิชาการ หรือ แกต-แพต ครั้งที่ 1/2553 (เดือนมีนาคม)



นายชัยวุฒิ กล่าวว่า จากผลสรุปการจัดการสอบ แกต และ แพต เรียบร้อยดี ในส่วน โอเน็ต มี นักเรียน ป.6 เข้าสอบ 8.9 แสนคน ม.3 เข้าสอบ 7.9 แสนคน และม.6 เข้าสอบ 3.5 แสนคน โดยทุกช่วงชั้นจะสอบ 8 กลุ่มสาระ คือวิชาภาษาไทย สังคมศึกษา อังกฤษ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สุขศึกษาและพลศึกษา ศิลปะ และการงานอาชีพและเทคโนโลยีนั้น พบว่าคะแนนเฉลี่ย นักเรียน ป.6 สูงขึ้น แต่นักเรียน ม.3 และ ม.6 ไม่ต่างจากปีที่ผ่านมา สำหรับ ป.6 วิชาที่มีคะแนนเฉลี่ยสูงสุดคือ สุขศึกษาและพลศึกษา 64.76 ต่ำสุดคือ ภาษาอังกฤษ 31.75 ส่วน ม.3 เฉลี่ยสูงสุดคือสุขศึกษาและพลศึกษา 56.70 เฉลี่ยต่ำสุดคือ ภาษาอังกฤษ 22.54 และ ม.6 เฉลี่ยสูงสุดคือ ภาษาไทย 46.47 เฉลี่ยต่ำสุดคือ ภาษาอังกฤษ 23.98



นายชัยวุฒิ กล่าวต่อไปว่า จากคะแนนเฉลี่ย นักเรียนป.6 ม.3 และ ม.6 ส่วนใหญ่ ในทุกกลุ่มสาระ ที่ไม่ถึงร้อยละ 50 นั้นตนไม่อยากบอกว่าเด็กสอบตกทั้งประเทศ แต่คะแนนที่ได้ไม่แตกต่างจากเดิม คือ ตกเหมือนเดิม และยอมรับว่าคะแนน เฉลี่ยไม่ค่อยดีเท่าที่ควร อย่างไรก็ตาม คะแนน นี้จะเป็นแรงกระตุ้นให้ทุกภาคส่วนต้องเร่งปรับปรุงคุณภาพการศึกษาในทุกวิชา โดยเป้าหมายของรัฐบาลคือ 5 ปีข้างหน้า คะแนนเฉลี่ยของทุกกลุ่มสาระวิชา ของทุกช่วงชั้นจะต้องสูงขึ้น



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คะแนนเฉลี่ยของนักเรียน ป.6, ม.3 และ ม.6 ไม่ถึงร้อยละ 50 เกือบทุกวิชา โดยเฉพาะชั้นม.6 ไม่มีวิชาใดถึงร้อยละ 50 ดังนี้ ภาษาไทย 46.47 สุขศึกษา 45.37 ศิลปะ 37.75 สังคมศึกษา 36.00 การงานอาชีพและเทคโนโลยี 32.98 วิทยาศาสตร์ 29.06 คณิตศาสตร์ 28.56 และภาษาอังกฤษ 23.98



ส่วนบรรยากาศการจับสลากนักเรียนชั้น ม.1 เป็นไปอย่างคึกคัก โดยช่วงเช้าวันเดียวกัน นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ได้เดินทางตรวจเยี่ยมการจับสลากนักเรียนชั้น ม.1 ที่โรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีผู้ปกครองและนักเรียนทยอยเดินทางมารอการจับสลากฯ บางรายได้มีการนำพวงมาลัยดอกดาวเรือง มาสักการะเจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) เพื่อขอพรให้จับสลากได้ เช่นเดียวกับบรรยากาศตามโรงเรียนชื่อดัง อื่น ๆ ที่เปิดให้มีการจับสลากเข้า ม.1 เช่น โรงเรียนหอวัง โรงเรียนศรีอยุธยา เป็นต้น



นายชินภัทร กล่าวว่า สำหรับนักเรียนที่ยังไม่มีที่เรียน ผู้ปกครองสามารถพานักเรียนไปยื่นความจำนงที่ สพท. ที่นักเรียนมีชื่ออยู่ หรือโรงเรียนใกล้บ้าน เพื่อให้จัดสรรที่เรียนรอบ 2 ให้ โดยสามารถยื่นความจำนงได้ตั้งแต่วันที่ 4-5 เม.ย. และจะประกาศผลให้ทราบวันที่ 8 เม.ย. รายงานตัววันที่ 9 เม.ย. โดยยืนยันว่า สพฐ. มีที่เรียนเพียงพอให้กับนักเรียนทุกคน ส่วนการรับนักเรียนเพิ่มเติมในโรงเรียนแต่ละแห่งนั้น สพฐ. ให้ สพท. เป็นผู้พิจารณา แต่จะต้องขยายไม่เกิน 45 คนต่อห้อง ในส่วนการรับนักเรียนชั้น ม.4 ที่มีการสอบขึ้นบัญชีไว้นั้น จะต้องพิจารณา นักเรียนที่จบชั้น ม.3 โรงเรียนเดิมก่อน หากทางสถานศึกษาต้องการขยายห้องเรียนนั้นขึ้นอยู่กับดุลพินิจของ สพท. แต่จะต้องไม่เกิน 45 คนต่อห้องเช่นเดียวกัน.



ข้อมูลจาก นสพ. เดลินิวส์ 02/ 04/ 2010
ขอขอบคุณรูปจาก เว็บ Dek D

วันพุธที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2553

เด็กพลาดหวัง ยื่นคำร้อง 4-5 เม.ย.สพฐ.ยันรู้ที่เรียนก่อนสงกรานต์

กวดวิชา ติวออนไลน์ ตะลุยข้อสอบ โดย เว็บการศึกษาดอทคอม kanzuksa.com


สพฐ.เตรียมหาที่เรียนนักเรียนพลาดหวังสอบ ยื่นคำร้องรอบสอง 4-5 เม.ย.นี้
ประกาศผล 8 เม.ย.“ชินภัทร” ยันทุกคนมีที่เรียนก่อนสงกรานต์




วันนี้ (30 มี.ค.)นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการรับนักเรียนชั้น ม.1 และ ม.4 ในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ประจำปีการศึกษา 2553 ว่า ที่ผ่านมาการสอบคัดเลือกของนักเรียนใน 8 จังหวัดที่มีการประกาศ พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรในวันที่ 28 มี.ค.และวันที่ 29 มี.ค.นั้นเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยจะประกาศผลสอบและรายงานตัวภายในวันพรุ่งนี้ (31 มี.ค.) สำหรับนักเรียนที่พลาดหวังการสอบ และยังไม่มีที่เรียนนั้นขอให้ยื่นความจำนงได้ที่โรงเรียนที่สมัครหรือสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา(สพท.)ที่อยู่ใกล้เคียง ระหว่างวันที่ 4-5 เม.ย. โดย สพท.จะพิจารณาจากโรงเรียนที่อยู่ใกล้บ้านรวมถึงความประสงค์ของนักเรียน จากนั้นจะประกาศผลการรับรอบ 2 ในวันที่ 8 เม.ย. และให้มารายงานตัวในวันที่ 9 เม.ย.นี้



“สพฐ.จะจัดที่เรียนให้กับนักเรียนทุกคนก่อนเทศกาลสงกรานต์ แต่หากยังมีนักเรียนตกหล่นอยู่จริง สพฐ.ก็จะดำเนินการจัดหาที่เรียนให้กับเด็กหลังเทศกาลสงกรานต์ต่อไป” เลขาธิการ กพฐ.กล่าว



นายชินภัทร กล่าวถึงกรณีจำนวนนักเรียนใน สพท.กรุงเทพมหานคร เขต 2 ที่มีนักเรียนสมัครเกินกว่าจำนวนที่รับได้ ว่า จากการรายงานในเบื้องต้น พบว่า ส่วนใหญ่เป็นการสมัครซ้ำซ้อน โดยยอมรับว่าจำนวนที่รับนักเรียนนั้นยังขาดอยู่บ้างแต่มีจำนวนไม่มากซึ่งขณะนี้ได้มอบให้สำนักแผนและนโยบาย (สนผ.) ไปวิเคราะห์เพื่อจัดหาที่เรียนให้กับนักเรียนแล้ว



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับภาพรวมการรับนักเรียนเพื่อเข้าเรียนต่อชั้น ม.1 และ ม.4 ประจำปีการศึกษา 2553 ของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ทั่วประเทศในเบื้องต้น มีดังนี้ แผนการรับนักเรียนชั้น ม.1 จำนวน 772,660 คน มีผู้สมัครจำนวน 715,230 คน และแผนการรับนักเรียนชั้น ม.4 จำนวน 399,832 คน มีผู้สมัครจำนวน 362,896 คน สำหรับในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครนั้น เมื่อแยกรายเขตพื้นที่ พบว่า สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) กทม.เขต 1 มีแผนการรับชั้น ม.1 จำนวน 14,379 คน มีผู้สมัครจำนวน 23,807 คน แผนการรับชั้น ม.4 จำนวน 13,718 คน มีผู้สมัครจำนวน 7,168 คน, สพท.กทม.เขต 2 แผนการรับชั้น ม.1 จำนวน 17,722 คน มีผู้สมัครจำนวน 31,410 คน และแผนการรับชั้น ม.4 จำนวน 13,698 คน มีผู้สมัครจำนวน 16,488 คน และ สพท.กทม.เขต 3 แผนการรับชั้น ม.1 จำนวน 15,351 มีผู้สมัครจำนวน 23,259 คน และแผนการรับชั้น ม.4 จำนวน 10,096 คน มีผู้สมัครจำนวน 7,975 คน



ด้าน นายเติบ ใยเจริญ ผอ.สพท.กทม.เขต 1 กล่าวว่า ขณะนี้ได้จัดตั้งศูนย์ประสานงาน 11 ศูนย์ เพื่อให้นักเรียนที่ยังไม่มีที่เรียนได้เข้ามายื่นความจำนงให้จัดที่เรียนในรอบ 2 ที่ศูนย์ต่างๆ เหล่านี้ ซึ่งสามารถเข้าไปตรวจสอบรายชื่อศูนย์ประสานงานได้ที่เว็บไซต์ของ สพท.กทม.เขต 1 www.edbkk1.go.th ทั้งนี้ ขอให้ผู้ปกครองมั่นใจได้ว่าเด็กทุกคนที่ยื่นความจำนงจะมีที่เรียนอย่างแน่นอน เพียงแต่ไม่อยากให้ผู้ปกครองยึดติดว่าจะต้องให้เด็กเข้าเรียนต่อในโรงเรียนยอดนิยมเท่านั้น เพราะโรงเรียนอื่นๆ ก็มีคุณภาพในการจัดการเรียนการสอนไม่แพ้กัน อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่มีโรงเรียนใดขอขยายจำนวนนักเรียนต่อห้องเรียนมาที่เขตพื้นที่ฯ



นายปรีชา จิตรสิงห์ ผอ.สพท.กทม.เขต 2 กล่าวว่า สพท.กทม.เขต 2 นั้น คณะกรรมการรับนักเรียนระดับเขตพื้นที่ฯ ได้อนุมัติในหลักการว่าให้โรงเรียนสามารถขยายรับนักเรียนต่อห้องจากแผนรับ 40 คนต่อห้อง เป็น 41-50 คน/ห้อง ตามความเหมาะสมและความจำเป็นของแต่ละโรงเรียน คาดว่าจะทำให้รับได้เพิ่มถึง 5,000 คน จากเดิม 16,800 คน ส่วนที่เหลือจะเกลี่ยไปยังโรงเรียนเอกชนและโรงเรียนสังกัด กทม.ที่ทำโครงการโรงเรียนคู่สหกิจกับ สพฐ.



ขณะที่ นายสุรศักดิ์ ศรีสว่างรัตน์ ผอ.สพท.กทม.เขต 3 กล่าวว่า ทางเขตพื้นที่ฯ ได้เตรียมแผนการจัดที่นั่งรอบ 2 ไว้แล้ว โดยหลังจากที่เด็กยื่นความจำนงผ่านโรงเรียนที่เด็กสมัครเข้าเรียนแล้ว ในวันที่ 7 เม.ย.นี้ ทางเขตพื้นที่ฯ จะประชุมร่วมกับโรงเรียน เพื่อเกลี่ยที่นั่งให้กับเด็กทุกคน ซึ่งเด็กที่ยื่นความจำนงจะมีที่เรียนแน่นอน และอยู่ใกล้บ้าน แต่อาจจะไม่ใช่โรงเรียนที่นักเรียนต้องการ ส่วนการขอขยายจำนวนนักเรียนต่อห้องนั้นขณะนี้ยังไม่มีโรงเรียนใดขอดำเนินการมา



ที่มา ATSVผู้จัดการออนไลน์ 30 มี.ค.53

ให้สิทธินักเรียนเข้าเตรียมทหารสอบ ม.4

กวดวิชา ติวออนไลน์ ตะลุยข้อสอบ โดย เว็บการศึกษาดอทคอม kanzuksa.com

สพฐ. ให้สิทธินักเรียน ที่ติดสอบสถาบันอื่น ยื่นคำร้องสอบ ม.4 ได้ หลัง มีผู้ปกครองและนักเรียนร้องเรียน กำหนดสอบเข้า วันที่ 28 มี.ค. ตรงกับวันสอบโรงเรียนนายเรือ...

ดร.ชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กำหนดสอบคัดเลือกนักเรียนเข้าศึกษาต่อชั้น ม.1 และ ม.4 ของโรงเรียนใน 8 จังหวัดที่รัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงฯในวันที่ 28 มี.ค.นั้น ปรากฏว่ามีผู้ปกครองและนักเรียนจำนวนหนึ่งร้องเรียนว่าวันที่ 28 มี.ค.ตรงกับวันสอบคัดเลือกเข้าศึกษาต่อในโรงเรียนนายเรือ ตนจึงนำปัญหาดังกล่าวเข้าหารือกับผู้บริหารที่เกี่ยวข้อง และมีมติ ว่าควรให้สิทธิแก่นักเรียนที่มีเหตุผลความจำเป็น โดยให้โรงเรียนดำเนินการ ดังนี้ 1. แจ้งให้นักเรียนที่จะสมัครเรียน ม.4 แต่ติดสอบสถาบันการศึกษาอื่น เช่น โรงเรียนนายเรือ ยื่นคำร้องขอใช้สิทธิสอบเข้าเรียนชั้น ม.4 ระหว่างวันที่ 25-27 มี.ค. พร้อมหลักฐานการติดสอบที่อื่น โดยให้ยื่นคำร้องที่โรงเรียนที่จะสมัครเข้าเรียนม.4 และ 2. จัดสอบคัดเลือกให้กับนักเรียนที่ยื่นคำร้องวันที่ 29 มี.ค.นี้ ตั้งแต่เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป และให้ใช้ข้อสอบคู่ขนานกับข้อสอบที่ใช้สอบวันที่ 28 มี.ค.และให้ประกาศผลสอบพร้อมกันวันที่ 31 มี.ค.นี้



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภาพรวมการรับสมัครนักเรียน ม.1 และ ม.4 ในส่วนของโรงเรียนที่มีอัตราการแข่งขันสูง ปรากฏว่าเขตพื้นที่ฯ ส่วนใหญ่รายงานมายัง สพฐ. แล้ว โดย ม.1 มียอดสมัคร 269,284 คน จากแผนการรับที่แจ้งเบื้องต้น 132,461 คน ม.4 ยอดสมัคร 142,838 คน จากแผนการรับที่แจ้งเบื้องต้น 112,683 คน โดยข้อมูล ณ วันที่ 24 มี.ค. ระดับ ม.1 โรงเรียนใน กทม. ที่มียอดสมัครเกิน 1,500 คน อาทิ ร.ร.สตรีวิทยา รับ 400 คน สมัคร 1,646 คน ร.ร.สามเสนวิทยาลัย รับ 372 คน สมัคร 1,993 คน ร.ร.บดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) รับ 552 คน สมัคร 1,913 คน ร.ร.ศึกษานารี รับ 476 คน สมัคร 1,551 คน ส่วน ม.4 ที่มียอดสมัครเกิน 1,000 คน ได้แก่ ร.ร.บดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) รับ 630 คน สมัคร 4,998 คน



สำหรับระดับอาชีวศึกษานั้น ให้อำนาจสถานศึกษาใช้ดุลพินิจของคณะกรรมการการรับนักเรียน ตัดสินใจและกำหนดระยะเวลาการรับนักเรียนนักศึกษาได้เอง และให้ดำเนินการเสร็จภายในวันที่ 30 เมษายนนี้.

วันพุธที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

ข้อมูลการสอบ GAT / PAT 2553 /ครั้งที่ 1-3 สอบครั้งที่1 มีนาคม2553

กวดวิชา ติวออนไลน์ ตะลุยข้อสอบ โดย เว็บการศึกษาดอทคอม kanzuksa.com


ข้อมูลการสอบ GAT / PAT 2553


ท่านสามารถพิมพ์บัตรประจำตัวผู้เข้าสอบได้ตั้งแต่วันที่ 10 มกราคม 2553
ในการเข้าห้องสอบ ท่านต้องแสดงบัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรประจำตัวนักเรียนที่มีรูปถ่าย หรือบัตรที่ทางราชการออกให้ที่มีรูปถ่าย

ประกาศผลสอบ GAT / PAT ครั้งที่ 1 ปลายเดือนมีนาคม 2553

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน)

วันอังคารที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2553

คนจะฉลาดหรือโง่ขึ้นอยู่กับสิ่งสำคัญขนาดของมันสมอง

กวดวิชา ติวออนไลน์ ตะลุยข้อสอบ โดย เว็บการศึกษาดอทคอม kanzuksa.com





หากเป็นเรื่องของสติปัญญากันแล้ว นักวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ของสหรัฐฯพบว่า มันขึ้นอยู่กับขนาดของมันสมอง คนที่มีมันสมองโตกว่า ย่อมหัวแหลมยิ่งกว่าผู้ที่มีสมองมด

คณะนักวิทยาศาสตร์ระหว่างประเทศได้ศึกษา โดยสังเกตจากการเล่นวีดิโอเกมของคนต่างๆ สังเกตพบว่า คนที่มันสมองใหญ่กว่า จะมีการประสานงานระหว่างสมองกับมือเหนือกว่าและมีหัวไวกว่าเพื่อนคนที่อาภัพมีมันสมองก้อนเล็กกว่ากัน

นักวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยอเมริกันผู้เป็นหัวหน้ากล่าวว่า

  • กุญแจของความสำเร็จอยู่ที่ขนาดของมันสมองอันเป็นตัวควบคุมความรวดเร็วของการใช้หัวคิดและการค้นพบเรื่องนี้จะช่วยในการศึกษาโรคของมันสมองต่อไป "ความรู้เหล่านี้จะเป็นประโยชน์ในการศึกษาเพื่อให้รู้ว่าจะต้องใช้เวลาเคี่ยวเข็ญ นักเรียนบางคนหรือในการบำบัดรักษาผู้ทุพพลภาพหรือสมองเสื่อมมากสักเท่าใด" เขากล่าว.
ที่มา : thairath.co.th
รูปจาก : zheza.com

มาช่วยกันแนะนำแหล่งท่องเที่ยว ร้านอาหารมากมายในเมืองไทยกันค่ะ



  • มาช่วยกันแนะนำแหล่งท่องเที่ยว ร้านอาหารมากมายในเมืองไทยกันค่ะ
  • คลิกที่นี่เพื่อเข้าสู่หน้า แนะนำ
คำค้นหา : สถานที่ท่องเที่ยว,ร้านอาหาร,แนะนำร้านอาหาร,แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว

วันศุกร์ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2553

สถานที่จัดกิจกรรมวันเด็ก 2553 วันเด็กปีนี้พาลูก หลานเที่ยวไหนดี

กวดวิชา ติวออนไลน์ ตะลุยข้อสอบ โดย เว็บการศึกษาดอทคอม kanzuksa.com




สถานที่เที่ยวพร้อมโปรโมชั่นวันเด็กปี 2553

  • ดรีมเวิลด์ "วันเด็กยิ้ม"
         พิเศษ! ค่าบัตรผ่านประตูสำหรับเด็ก 60 บาท (ส่วนสูงไม่เกิน 145 ซม.)
         สอบถามเพิ่มเติม โทร. 02-5331152, 02-5331447 แฟกซ์ 02-5331899
         เว็บไซต์ http://www.dreamworld-th.com/


  • สยามพาร์คซิตี้ - สวนสยาม ทะเลกรุงเทพฯ



    วันเด็กปีนี้ ไวตามิ้ลค์แชมป์ให้เด็กๆ เที่ยวสวนสยามฟรี (พิเศษเฉพาะน้องๆ ที่มีความสูงไม่เกิน 125 ซม. เท่านั้น) เพียงสะสมหูข้างกล่องไวตามิ้ลค์แชมป์ รสและขนาดใดก็ได้ เฉพาะด้านที่มีลายการ์ตูนจำนวน 10 หู นำมาแลกบัตร Si-Am Kids Pass เพื่อเล่นสวนน้ำและเครื่องเล่นสำหรับเด็กที่มีความสูงไม่เกิน 125 ซม. ฟรี! แลกได้ที่จุดรับแลกและลงทะเบียน ณ สวนสยาม ในวันที่ 9-10 ม.ค. 2553
  • เขาดิน (สวนสัตว์ดุสิต)


    วันเด็ก...เด็กเที่ยวฟรีตลอดมกราคม 53 ที่... เขาดิน
    สวนสัตว์ดุสิต เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น.
    สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายพัฒนาธุรกิจและประชาสัมพันธ์ สวนสัตว์ดุสิต
    โทร. 0-2281-2000,0-2281-9027-8

  • สวนสัตว์เปิดเขาเขียว


    วันเด็กปีนี้..เด็กๆ เที่ยวฟรี ที่สวนสัตว์เปิดเขาเขียว ชลบุรี รับของขวัญของรางวัลมากมาย ชมการแสดงจากน้องมาย ป่วนเมือง โชว์มายากล สนุกกับเกมส์ การละเล่น ต่างๆมากมาย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 038-318444 เว็บไซต์ http://www.kkopenzoo.com/

  • ศูนย์การค้า ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต

    วันเด็กสุดมันส์ ...ศูนย์การค้า ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต จัดกิจกรรมรับเทศกาลวันเด็ก "FUTURE PARK SUPER KIDS 2010" โดยนำทีมการ์ตูนชื่อดังมาให้ความสนุกสนานกับน้องๆ อาทิ ปังปอนด์และผองเพื่อน การแสดงโชว์การ์ตูนเกาหลี โพโรโระ และ ครองซ์ พร้อมด้วยกิจกรรมระบายสีการ์ตูน เพนต์ถุงผ้า เป็นต้น งานมีระหว่างวันที่ 8-17 ม.ค.นี้ ที่บริเวณแคสคาต้า ชั้นจี ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต  สอบถาม โทร. 0-2958-0011 ต่อ 1802, 1026

  • เดอะมอลล์

    ตะลุยเมืองมหัศจรรย์...เดอะมอลล์ จัดกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติ ในงาน "The Mall Kid's Funtasia 2010 : ตะลุยเมืองมหัศจรรย์ หฤหรรษ์วันเด็ก" วันที่ 9-10 ม.ค.2553 ที่เดอะมอลล์ ทุกสาขา


     
  • ซาฟารีเวิลด์

    ตั้งอยู่บนถนนรามอินทรา บริเวณกิโลเมตรที่ 9 เขตมีนบุรี พื้นที่ภายในแบ่งออกเป็น 2 โซน คือ โซนที่หนึ่ง - ซาฟารีปาร์ค เป็นสวนสัตว์เปิด โซนที่สอง - มารีนปาร์ค หรือสวนน้ำ มีสัตว์น้ำ และสัตว์ที่หาชมยาก รวมทั้งโชว์ต่างๆ เช่น โชว์ของปลาโลมา, นก, แมวน้ำ และลิง ฯลฯ

    ซาฟารีเวิลด์เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 09.00-17.00 น. อัตราค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 390 บาท เด็ก 290 บาท สอบถามเพิ่มเติม โทร. 0 2518 1000-19, 0 2914 4100-9 เว็บไซต์ http://www.safariworld.com/

  • สยามโอเชี่ยนเวิลด์


    อุทยานสัตว์น้ำระดับมาตรฐานโลกและมีขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตั้งอยู่ที่ชั้น บี 1-2 ศูนย์การค้าสยามพารากอน

    สยาม โอเชี่ยนเวิร์ล เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00 - 20.00 น. อัตราค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 350 บาท เด็ก (80 - 120 ซม.) 250 บาท ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ เว็บไซต์ http://www.siamoceanworld.co.th/

  • ทีเคพาร์ค

    อุทยานการเรียนรู้ (ทีเคพาร์ค) เซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 8 โซน D

    ทีเคพาร์ค จัดกิจกรรมเนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ณ ลานสานฝัน ในวันที่ 9-10 มกราคม นี้ ตั้งแต่เวลา 11:00 - 16:00 น. ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ เว็บไซต์ http://www.tkpark.or.th/
  • สวนเสือศรีราชา

    กิจกรรมวันเด็กแห่งชาติ 53 สวนเสือศรีราชา เตรียมกิจกรรมสนุก ๆ มอบเป็นของขวัญให้กับน้อง ๆ ทุกคนทั้งช้อนไข่ของขวัญเพื่อการกุศล ออกร้านจำหน่ายสินค้าของนักเรียน การแสดงของนักเรียนพิเศษ! เด็กที่มีส่วนสูงไม่เกิน 140 ซม.และเด็กนักเรียนในเครื่องแบบเข้าชมฟรี! ในวันเสาร์ที่ 9 ม.ค. เวลา 10.00-15.00 น. สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 0 3829 6556-8 เว็บไซต์ http://www.tigerzoo.com/
  • ริบลีส์ เวิลด์ ออฟ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ พัทยา(Ripley's World of Entertainment Pattaya)

    เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00 น. ถึง 23.00 น.
    ศูนย์การค้ารอยัล การ์เด้น พลาซ่า พัทยาใต้ สอบถามเพิ่มเติมที่ โทร. (038) 710-294 ถึง 8
    เว็บไซต์ http://www.ripleysthailand.com/
  • อุทยานหินล้านปีและฟาร์มจระเข้พัทยา


    เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.00 - 18.00 น.
    โทร. 0 3824 9347-9, 0 3824 9311, 0 3824 9302 แฟกซ์ 0 3824 9349
    ดูรายละเอียดได้ที่ เว็บไซต์ http://www.thaistonepark.org/
  • สวนสนุกพัทยาปาร์ค


    ตั้งอยู่ที่ปลายหาดดงตาล ด้านเหนือของหาดจอมเทียน มีสระน้ำวน สไลเดอร์สูงใหญ่ และเครื่องเล่นนานาชนิด มีหอคอยพัทยาปาร์คสูง 55 ชั้น ชั้นบนมีภัตตาคารหมุน และจุดชมวิว รวมทั้งมีกิจกรรมกระเช้าลอยฟ้า และกระโดดหอ
    เปิดบริการตั้งแต่เวลา 11.00-19.00 น. ค่าเข้าชมหอคอย ชาวไทย 100 บาท ชาวต่างประเทศ 200 บาท ค่าบัตรเครื่องเล่น 3 อย่าง ชาวไทย 150 บาท ชาวต่างชาติ 300 บาท
    ผู้สนใจติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร. 0 3836 4110-20 กรุงเทพฯ โทร. 0 2579 9612-4
  • อันเดอร์วอเตอร์เวิลด์

    แหล่งรวมพันธ์ปลาทะเลในด้านอ่าวไทย พร้อมการแสดงให้อาหารสัตว์ทั้งบนผิวน้ำ และดำลงไปให้อาหารใต้น้ำตั้งอยู่เส้นสุขุมวิท-หนองปรือ พัทยาใต้ ห่างจากเทสโก้โลตัส 1 กม.
    เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 09.00-18.00 น. (ปิดจำหน่ายตั๋ว 17.30 น.) อัตราค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 250 บาท เด็ก 150 บาทผู้ที่สนใจสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 66 (0) 38 756 879 เว็บไซต์ http://www.underwaterworldpattaya.com/
  • ฟาร์มจระเข้และสวนสัตว์สมุทรปราการ

    ฟาร์มจระเข้ สมุทรปราการ เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00-18.00 น. ค่าบัตรผ่านประตู ผู้ใหญ่ 60 บาท เด็ก 30 บาท สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02 703 4891-5, 02 703 5144-8
  • จิม ทอมป์สัน ฟาร์มทัวร์ อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา

    วันที่: 19 ธันวาคม 2552 - 10 มกราคม 2553 เปิดให้เข้าชมตั้งแต่เวลา 09.00 - 17.00 น.

    พบกับกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย อาทิ เรียนรู้วงจรชีวิตของหนอนไหม ชมแปลงพืชผักและดอกไม้สีสวยสดนานาชนิด เลือกซื้อไม้ดอกไม้ประดับ พืชผักปลอดสารพิษ ชื่นชมสถาปัตยกรรมพื้นถิ่น หมู่บ้านอีสานและหมู่บ้านโคราช รวมทั้งชมการแสดงและการละเล่นต่าง ๆ ของอีสาน ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 08 5660 7336, 0 2762 2566, 0 4437 3116
    เว็บไซต์ http://www.jimthompsonfarm.com/
 สถานที่จัดงานพิเศษเฉพาะวันเด็ก

วันเด็ก นับเป็นโอกาสทองของเหล่าอนาคตของชาติ ที่จะได้เข้าไปเยี่ยมชมสถานที่สำคัญของบ้านเมือง ที่ปกติแล้วไม่ได้เปิดให้คนภายนอกเข้าชม แต่วันพิเศษแบบนี้ หน่วยงานราชการหลายแห่งจึงพร้อมใจกันเปิดสถานที่ต้อนรับคุณน้องๆ หนูๆ รวมถึงจัดกิจกรรมและการแสดงสุดพิเศษขึ้นเพื่อเอาใจและมอบความสุขให้พวกเขาอย่างเต็มที่ สถานที่ที่มีการจัดงานวันเด็กเป็นประจำทุกปี ได้แก่



- ทำเนียบรัฐบาล

- สนามเสือป่า

- กองทัพบก

- กองทัพอากาศ

- กองทัพเรือ

- พระที่นั่งวิมานเมฆ

- พระที่นั่งอนันตสมาคม

- สวนอัมพร

- สวนรถไฟ

- การกีฬาแห่งประเทศไทย


และสำหรับปีนี้ 

กรมธนารักษ์ เปิดโรงกษาปณ์ (รังสิต) ให้เด็กเข้าชมในวันเด็กแห่งชาติประจำปี 2553

พร้อมรับเหรียญที่ระลึกวันเด็กแห่งชาติ ปี 2553
ที่ โรงกษาปณ์รังสิต

สามารถพาลูกหลานไปเยี่ยมชมโรงงานผลิตเหรียญ เครื่องจักร อุปกรณ์ พร้อมทั้ง
ชมวีดีทัศน์เกี่ยวกับการผลิตเหรียญและผลงานของสำนักกษาปณ์ และกิจกรรมการแสดงและการประกวดชิงรางวัลมากมาย สามารถเพลิดเพลินพร้อมได้รับความรู้ตื่นตาตื่นใจ และได้นำเหรียญที่ระลึกวันเด็ก2553 ติดไม้ติดมือกลับบ้าน  ตั้งแต่เวลา 08:30 -15:00 น. เว็บไซต์ http://www.royalthaimint.net/

ในงานนี้หากใครนำเหรีญบาท สองบาท ห้าบาท สิบบาทและเหรียญสตางค์ ไปแลกเป็นแบงค์ตามจำนวนที่นำมาแลก จะได้รับเหรียญที่ระลึกวันเด็กปี 2553  และหากใคร มีจำนวนเหรียญในการแลกที่มากที่สุด จะได้รับรางวัลพิเศษอีกด้วย !!!


ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก: ไทยรัฐออนไลน์ / PANTIP.COM
เรียบเรียงโดย : การศึกษาดอทคอม

สิ่งที่รัฐมองข้ามไป กับของขวัญชิ้นใหญ่ ในวันเด็ก

กวดวิชา ติวออนไลน์ ตะลุยข้อสอบ โดย เว็บการศึกษาดอทคอม kanzuksa.com




เมื่อพูดถึงวันเด็ก หลายคนจะนึกถึงแต่งานรื่นเริง อารมณ์ Feel good แต่ทว่าอีกมุมหนึ่ง น.ส.ธิติมา หมีปาน หัวหน้าศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงาบอกกับ ไทยรัฐออนไลน์ ว่า ยังมีเรื่องเด็กๆ ที่สะท้อนถึงปัญหาเชิงโครงสร้างที่รัฐบาลควรใส่ใจ สนับสนุน ให้เรื่องนี้เป็นวาระเร่งด่วนคู่ขนานไปกับประเด็น Feel good อย่างที่ผู้มีอำนาจรัฐชอบ และถนัดในการสร้างภาพ




เพราะหากย้อนไปดูข้อมูลกันจริงๆ นับตั้งแต่ปี 2547 ถึงปัจจุบัน ศูนย์ข้อมูลคนหายเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ มูลนิธิกระจกเงา ได้รับแจ้งเหตุการหายตัวไปของคนในสังคมเป็นจำนวนมาก โดยในจำนวนนี้เป็นเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ถึง 1,000 กรณี หรือคิดเป็น 63% ของสถิติคนหายทั่วประเทศเลยทีเดียว นั่นแสดงให้เห็นว่า นอกจากเด็กจำนวนหนึ่งที่กำลังมีอารมณ์ Feed good เพราะผู้ใหญ่ป้อนให้แล้ว ยังมีเด็กในสังคมอีกจำนวนมากมายเหลือเกินที่ยังรอการช่วยเหลือเพื่อกลับคืนสู่บ้าน



หัวหน้าศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา กล่าวว่า ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นสภาพปัญหาที่กำลังทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ทั้งยังมีความซับซ้อนของปัญหามากขึ้น และสาเหตุที่นำพาให้เด็กกลุ่มนี้หายตัวไปนั้น มีอยู่หลากหลายประการด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการลักพาตัว การล่อลวงเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ทางเพศ การล่อลวงเพื่อบังคับใช้แรงงาน การถูกล่อลวงจากภัยเทคโนโลยี หรือปัญหาภายในครอบครัวที่ผลักดันให้เด็กหนีออกจากบ้าน



"แต่ไม่ว่าจะเป็นการหายไปด้วยสาเหตุใดก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ การกลับคืนสู่อ้อมกอดของครอบครัวอย่างปลอดภัย"



ดังนั้นเนื่องในวันเด็ก ศูนย์ข้อมูลคนหายเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ มูลนิธิกระจกเงา จึงออกมาวอนหน่วยงานภาครัฐ ทั้ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ตลอดจนเครือข่ายสื่อมวลชน ให้ตระหนักถึงสภาพปัญหา และความสำคัญของเรื่องนี้อย่างจริงจัง โดยให้ถือว่าเรื่อง “เด็กหาย” นี้เป็นวาระเร่งด่วนที่ต้องมีการผลักดันในระดับนโยบาย ทั้งเชิงป้องกันและมาตรการการติดตามหาเด็ก



น.ส.ธิติมา ได้เสนอแนะแนวทางการดำเนินการเรื่องเด็กหาย ดังต่อไปนี้



1. ในกรณีที่มีการแจ้งความเด็กหายนั้น พนักงานสอบสวนที่เข้าเวร ณ ขณะนั้นต้องรีบดำเนินการรับแจ้งความกรณีเด็กหายออกจากบ้านทุกกรณี โดยต้องไม่ปฏิเสธการรับแจ้งความเด็กหาย หรือยกเงื่อนไขเรื่องเวลาที่ต้องหายครบ 24 ชั่วโมงมาเป็นเหตุผลในการไม่ยอมรับแจ้งความ



2. ควรมีหน่วยงานของภาครัฐที่มีภารกิจในการประสานงานข้อมูลและติดตามกรณีเด็กหายและคนหายโดยเฉพาะ ซึ่งทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางของสถานีตำรวจทั่วประเทศในการประสานงานข้อมูลคนหาย โดยบทบาทและหน้าที่ตรงจุดนี้ ควรเป็นของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มิใช่เป็นของหน่วยงานขององค์กรพัฒนาเอกชน เช่นที่ผ่านมา



สำหรับข้อที่ 3. น.ส.ธิติมา บอกว่า ควรมีกฎหมายคนหายในประเทศไทย เพื่อเป็นแนวบรรทัดฐานในการสืบสวนสอบสวนติดตามเกี่ยวกับเรื่องคนหาย โดยในระหว่างกระบวนการผลักดันเสนอกฎหมายดังกล่าว เพื่อเป็นการบรรเทาความเสียหายเบื้องต้นสำนักงานตำรวจแห่งชาติควรพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบการตำรวจเกี่ยวกับคดีลักษณะคนหายพลัดหลงให้เป็นแนวทางสืบสวนสอบสวนเบื้องต้นจนกว่าจะมีกฎหมายเกี่ยวกับคนหายในประเทศไทย



4. ในกรณีเร่งด่วน หน่วยงานภาครัฐ ควรขอความร่วมมือจากสื่อมวลชนทุกแขนง ในการใช้พื้นที่ประชาสัมพันธ์ภาพ ซึ่งจะช่วยให้ทราบเบาะแสและติดตามได้รวดเร็วยิ่งขึ้น



“และข้อเสนอแนะข้อสุดท้ายก็คือเมื่อเกิดเหตุการณ์เด็กหายโดยเฉพาะในกรณีลักพาตัว หน่วยงานในพื้นที่ อาทิ สถานีตำรวจในท้องที่ โรงเรียน หรือหน่วยงานอื่นๆ ถือเป็นหน่วยงานสำคัญ ในการเผยแพร่ข้อมูลความรู้ต่างๆเพื่อเป็นการเตือนภัยเรื่องเด็กหาย ตามสถานที่ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงภัย”



อย่างไรก็ดี ที่สุดแล้วต้องไม่ลืมว่านอกเหนือจากความรื่นเริงบันเทิงใจของเด็กกลุ่มหนึ่งแล้ว ยังมีเด็กอีกกลุ่มใหญ่ที่รอของขวัญจากผู้มีอำนาจ นอกเหนือจากคำขวัญวันเด็กไม่ถึง 1 บรรทัดในทุกๆ ปี.

ขอขอบคุณภาพและข้อมูลจาก ไทยรัฐออนไลน์


ข่าวที่เกี่ยวข้องอื่นๆ